ประวัติคณะ

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เล็งเห็นว่า วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน นั้นเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการศึกษาในระดับอุดมศึกษาแทบทุกคณะ จากประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 2/2504 เมื่อวันพุธที่ 21 มิถุนายน พุทธศักราช 2504 ได้มีมติหลักการให้มีการจัดตั้งคณะเพิ่มขึ้นคือ คณะวิทยาศาสตร์และอักษรศาสตร์ โดยรวมแผนกวิชาทางวิทยาศาสตร์และภาษาที่มีอยู่เดิม กับเปิดแผนกวิชาขึ้นใหม่อีกบ้างตามความจำเป็นและจะขยายงานออกไปอีกตามส่วนเพื่อให้เป็นรูปคณะที่สมบูรณ์ขึ้น เมื่อเป็นคณะใหม่แล้วย่อมเปิดโอกาสให้มีการสอนขั้นปริญญาตรีในสาขาวิทยาศาสตร์และสาขาอื่นๆ รวมทั้งเปิดโอกาสให้มีการค้นคว้าวิจัยในสาขานั้นๆ มากขึ้น และทำให้การสอนศาสตร์ต่างๆ ในระดับพื้นฐานมีมาตรฐานสูงขึ้น อุปกรณ์ต่างๆ ที่มีอยู่เดิมก็จะใช้ประโยชน์คุ้มค่ายิ่งขึ้น

ต่อมา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จึงแต่งตั้งกรรมการขึ้น 1 ชุด เพื่อทำหน้าที่ร่างหลักสูตรและกฤษฎีกาจัดตั้งคณะวิทยาศาสตร์และอักษรศาสตร์ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พุทธศักราช 2505 โดยมี ศาสตราจารย์เทอด สุปรีชากร เป็นประธานคณะกรรมการ ดร.สง่า สรรพศรี เป็นเลขานุการ และมีกรรมการอีก 14 คน ได้แก่:

  • ศาสตราจารย์ ดร.ทวี ญาณสุคนธ์
  • ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร
  • ศาสตราจารย์พนม สมิตานนท์
  • ศาสตราจารย์จินดา เทียมเมธ
  • ดร.เล็ก ธนสุกาญจน์
  • นายเสรี ไตรรัตน์
  • นางสาวประชุม ทัพภะสุต
  • นายเฉลิมเกียรติ สุจินดา
  • ดร.สุขุม อัศเวศน์
  • ดร.โอวาท นิติทัณฑ์ประภาส
  • ดร.ไพฑูรย์ อิงคสุวรรณ
  • ดร.ไพฑูรย์ เครือแก้ว
  • นางสาวประไพรัตน์ ถิระวัฒน์
  • นางสลวย กรุแก้ว

คณะกรรมการชุดนี้ได้ดำเนินการร่างหลักสูตรและกฤษฎีกาจัดตั้งคณะวิทยาศาสตร์และอักษรศาสตร์เป็นที่เรียบร้อย และเสนอร่างหลักสูตรและกฤษฎีกาจัดตั้งคณะฯ ต่อมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยหลักสูตรที่ร่างครั้งแรกเป็นหลักสูตร 5 ปี แต่สภาการศึกษาแห่งชาติขอให้ปรับเปลี่ยนเป็นหลักสูตร 4 ปี เช่นเดียวกับสถาบันอื่น และหลักสูตร 5 ปีของคณะอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ก็กำลังจะปรับลดเหลือ 4 ปี เช่นเดียวกัน ดังนั้นหลักสูตรของคณะวิทยาศาสตร์และอักษรศาสตร์จึงเป็นหลักสูตร 4 ปี

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นอีกชุดหนึ่ง เพื่อทำหน้าที่พิจารณาตรวจแก้ไขร่างหลักสูตรและกฤษฎีกาจัดตั้งคณะวิทยาศาสตร์และอักษรศาสตร์ ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 3/2506 โดยให้ ศาสตราจารย์ ดร.กำแหง พลางกูร เป็นประธานกรรมการ ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร เป็นกรรมการและเลขานุการ กับมีกรรมการอีก 3 คน คือ

  • ศาสตราจารย์จรัด สุนทรสิงห์
  • ดร.ประดิษฐ์ เชี่ยวสกุล
  • ศาสตราจารย์ ดร.ทวี ญาณสุคนธ์

ในที่สุดการดำเนินการก็เสร็จเรียบร้อยและได้นำเสนอร่างหลักสูตรต่อสภาการศึกษาแห่งชาติ จนกระทั่งได้มีประกาศตามความในพระราชกฤษฎีกาจัดแบ่งคณะในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พุทธศักราช 2509 ซึ่งได้ให้ไว้ ณ วันที่ 9 มีนาคม พุทธศักราช 2509 เป็นปีที่ 21 ในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพลตรีกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ในมาตรา 2 ของพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ ได้ระบุให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งได้ประกาศไว้ในหนังสือราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 83 ตอนที่ 22 หน้า 228-232 ลงวันที่ 8 มีนาคม พุทธศักราช 2509 ดังนั้นจึงได้ถือเอา วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2509 เป็นวันก่อตั้งคณะวิทยาศาสตร์และอักษรศาสตร์ นับเป็นคณะลำดับที่ 7 ที่ก่อตั้งขึ้นในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

คณะวิทยาศาสตร์และอักษรศาสตร์ มีสถานที่ทำการแรกอยู่ ณ ตึกหอสมุดเก่า หลังตึกพืชพรรณ (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานของศูนย์พัฒนาและวางแผนการเกษตรของอาเซียน) โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.ทวี ญาณสุคนธ์ เป็นคณบดีคนแรก และ ดร.สนิท ทองสง่า เป็นเลขานุการคณะคนแรก เมื่อเริ่มแรกคณะวิทยาศาสตร์และอักษรศาสตร์ ประกอบด้วย 6 แผนกวิชากับ 1 หน่วยงาน คือ

  1. แผนกวิชาเคมี โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.กฤษณา ชุติมา เป็นหัวหน้าแผนกวิชา มีสำนักงานอยู่ที่ตึกเคมี (ปัจจุบันเป็นกองปฐพีวิทยา กรมวิชาการเกษตร) และเป็นแผนกที่ได้โอนมาจากคณะเกษตร
  2. แผนกวิชาคณิตศาสตร์ โดยมี นายชลิต เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าแผนกวิชา มีสำนักงานอยู่ที่อาคารชั่วคราวชั้นเดียว ตรงข้ามกับคณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ (ปัจจุบันรื้อไปแล้ว) และเป็นแผนกที่ได้จัดตั้งใหม่
  3. แผนกวิชาชีววิทยา โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.ทวี ญาณสุคนธ์ เป็นหัวหน้าแผนกวิชา มีสำนักงานอยู่ที่ตึกชีววิทยาเก่าหน้าอนุสาวรีย์หลวงสุวรรณฯ (ได้เปลี่ยนชื่อเป็นอนุสาวรีย์บูรพาจารย์ สามเสือแห่งเกษตรในปี 2538) และเป็นแผนกที่ได้โอนมาจากคณะเกษตร
  4. แผนกวิชาฟิสิกส์ โดยมี นายวิฑูรย์ หงษ์สุมาลย์ เป็นหัวหน้าแผนกวิชา มีสำนักงานอยู่ที่อาคารเกษตรวิศวกรรม ปัจจุบันคือบริเวณที่เป็นอาคารอินทรีจันทรสถิตย์ และเป็นแผนกที่ได้จัดตั้งใหม่
  5. แผนกวิชาภาษา โดยมี นางสาวประชุม ทัพภะสุต เป็นหัวหน้าแผนกวิชา มีสำนักงานอยู่ที่ตึกธรรมศักดิ์มนตรี ปัจจุบันเป็นตึกวิจัยนิวเคลียร์เทคนิคการเกษตร กรมวิชาการเกษตร และเป็นแผนกที่ได้โอนมาจากคณะเกษตร
  6. แผนกวิชาสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ โดยมี ดร.นิพนธ์ คันธเสวี เป็นหัวหน้าแผนกวิชา มีสำนักงานอยู่ที่ตึกธรรมศักดิ์มนตรีชั้นบน และเป็นแผนกที่ได้จัดตั้งใหม่
  7. หน่วยพลังงานปรมาณู โดยมี ดร.อรรถ นาครทรรพ เป็นหัวหน้าหน่วย มีสำนักงานอยู่ที่เรือนรุกขรังสีหลังตึกชีววิทยาเก่า
  8. ในขณะนั้น สำนักเลขานุการคณะวิทยาศาสตร์ ยังไม่มีฐานะเป็นส่วนราชการ

 


การเรียนการสอนในระยะเริ่มแรก

  • ปีพุทธศักราช 2509 คณะวิทยาศาสตร์และอักษรศาสตร์ มีหลักสูตรที่ได้รับอนุมัติเปิดสอน 2 สาย คือ
    1. สายวิทยาศาสตร์ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต (วิทยาศาสตร์) เป็นหลักสูตร 4 ปี (145 หน่วยกิต) มีสาขาให้เลือก หลากสาขา ได้แก่ พฤกษศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา อินทรีย์เคมี จุลชีววิทยา ชีวเคมี คณิตศาสตร์
    2. สายศิลปศาสตร์ หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต (สังคมศาสตร์) และหลักสูตรศิลปศาสตร์ (มนุษยศาสตร์) ทั้งสองหลักสูตรเป็นหลักสูตร 4 ปี (145 หน่วยกิต)

    คณะวิทยาศาสตร์และอักษรศาสตร์ได้รับนิสิตเฉพาะสายวิทยาศาสตร์เท่านั้น และแผนกวิชาที่พร้อมจะรับนิสิตเข้าศึกษาในสาขาวิชาเอกมีเพียง 2 แผนกวิชาคือ แผนกเคมี และแผนกชีววิทยา ดังนั้นบัณฑิตรุ่นแรกที่จบการศึกษาส่วนใหญ่จะจบทางด้านเคมีและจุลชีววิทยา

  • ปีพุทธศักราช 2510 ได้รับนิสิตสายศิลปศาสตร์ และปีเดียวกันนี้ก็ได้เริ่มการเปิดสอนระดับปริญญาโท หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (สัตววิทยา) หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (พฤกษศาสตร์) หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (ชีววิทยา) และ หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (จุลชีววิทยา) รวม 4 สาขาวิชาในคณะวิทยาศาสตร์และอักษรศาสตร์ (ในขณะนั้นยังไม่มีการจัดตั้งบัณฑิตวิทยาลัย)
  • ปีพุทธศักราช 2512 มีมหาบัณฑิตจบการศึกษารุ่นแรกจำนวน 8 ราย ส่วนนิสิตปริญญาตรีรุ่นแรกสำเร็จการศึกษาในปีพุทธศักราช 2512 จำนวน 1 ราย ในปีพุทธศักราช 2513 จำนวน 32 ราย และในปีถัดมา พุทธศักราช 2514 บัณฑิตสายศิลปศาสตร์รุ่นแรกสำเร็จการศึกษา จำนวน 22 ราย เป็นสาขาสังคมศาสตร์ 13 ราย สาขามนุษยศาสตร์ 9 ราย
  • ปีพุทธศักราช 2514 มีการปรับปรุงหลักสูตรครั้งแรกให้เป็นสากลนิยมคือ เปลี่ยนชื่อปริญญาจาก ปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต (วิทยาศาสตร์) มาเป็น ปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต (คณิตศาสตร์) ปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต (เคมี) ปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต (ฟิสิกส์) ปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต (ชีววิทยา) ปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต (สถิติ) ส่วนสายศิลปศาสตร์ เปิดสอน 2 ปริญญาคือ ปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิต (ภาษา) ปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิต (คณิตศาสตร์) และยกเลิกปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิต (สังคมศาสตร์) และปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิต (มนุษยศาสตร์) ไป
  • ปีพุทธศักราช 2517 ภาควิชาสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ได้โอนไปสังกัดคณะสังคมศาสตร์ ซึ่งตั้งขึ้นในปีนั้น พร้อมทั้งโอนนิสิตชั้นปีที่ 1 ที่รับเข้ามาในสายศิลป-คณิต ไปสังกัดคณะสังคมศาสตร์ ส่วนนิสิตสาขาศิลป-ภาษา ยังคงอยู่ในคณะวิทยาศาสตร์และอักษรศาสตร์ จนกระทั่งปีพุทธศักราช 2524 ภาควิชาภาษาได้โอนไปสังกัดคณะมนุษยศาสตร์ จึงโอนนิสิตสายศิลป-ภาษา ทั้งหมดไปสังกัดคณะมนุษยศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และอักษรศาสตร์ จึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น คณะวิทยาศาสตร์ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พุทธศักราช 2524 โดยมีประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พุทธศักราช 2545


การเรียนการสอนในปัจจุบัน

ปัจจุบัน คณะวิทยาศาสตร์แบ่งส่วนงานออกเป็น 13 ภาควิชา และ 1 ส่วนงานระดับเทียบเท่าภาควิชา ได้แก่:

  1. สำนักงานเลขานุการคณะวิทยาศาสตร์
  2. ภาควิชาคณิตศาสตร์
  3. ภาควิชาเคมี
  4. ภาควิชาจุลชีววิทยา
  5. ภาควิชาชีวเคมี
  6. ภาควิชาพฤกษศาสตร์
  7. ภาควิชาพันธุศาสตร์
  8. ภาควิชาฟิสิกส์
  9. ภาควิชารังสีประยุกต์และไอโซโทป
  10. ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์
  11. ภาควิชาวิทยาศาสตร์พื้นพิภพ
  12. ภาควิชาวัสดุศาสตร์
  13. ภาควิชาสถิติ
  14. ภาควิชาสัตววิทยา

และได้ทำการเปิดสอนหลักสูตรต่างๆ ในระดับปริญญาตรีจำนวน 15 หลักสูตร ระดับปริญญาโทจำนวน 14 หลักสูตร และระดับปริญญาเอกจำนวน 10 หลักสูตร

นอกจากนี้ ยังเปิดสอนหลักสูตรเตรียมแพทยศาสตร์ให้กับวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ซึ่งเดิมเป็นหลักสูตร 2 ปี ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2518-2523 และในปีพุทธศักราช 2524 ได้ปรับเปลี่ยนเป็นหลักสูตร 1 ปี และได้ใช้หลักสูตรนี้มาจนถึงปัจจุบัน